ELEGIE
บทเพลงนี้เป็นอยู่ในบันไดเสียง A ไมเนอร์ รูปแบบฟอร์มเพลงนั้นอยู่ในรูปแบบ Theme and Variations มีทำนองหลักอยู่ทั้งหมด 2 ทำนอง และทั้ง 2 ทำนองนั้นมีการพัฒนาไปเป็น Variation ทั้งหมด 2 ครั้ง
Theme A ( ห้องที่ 1 - 12 )
รูปที่ 1 : Elegie ( ห้องที่ 1 - 12 )
เข้า Theme ด้วยบันใดเสียง A ไมเนอร์ซึ่งโดยธรรมชาติของบันใดเสียงเมเนอร์ จะให้อารมณ์ความรู้สึกถึงความโศกเศร้า
Theme B ( ห้องที่ 12 - 23 )
รูปที่ 2 : Elegie ( ห้องที่ 12 - 23 )
ก่อนที่จะเข้าTheme B นั้น มีการใช้คอร์ด Tension , Resolve และจังหวะ ที่ให้อารมณ์ความรู้สึก ไม่มั่นคง
Theme B นั้นจะมีการใช้เทคนิค Arpeggio (โน้ตแยก) มีการกลับมาใช้ทำนองที่ยืดเยื้อก่อนจะใช้คอร์ดที่ 5 ให้อารมณ์ความรู้สึกที่ความสับสนวุ่นวายหรือว่าให้ความรู้สึกเว้งว้าง และกลับไปที่คอร์ด 1 ตามหลักของทฎษฎี
ในส่วนของเทคนิคเชิงปฏิบัติการเราเรียกวิธีการเล่นเทคนิคนี้ว่า Arppegio ซึ่งเทคนิคนี้จะใช้ความความเร็วและคล่องของมือซ้ายอย่างมากซึ่งผู้เล่นนั้นได้ให้วิธีการวางแผนนิ้วให้สมองของผู้เล่นคิดก่อนที่นิ้วจะวางและพอรู้สึกว่านิ้วคล่องขึ้งตัวผู้เล่นจะเล่นพร้อนเมโทนอมและเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆจนถึงความเร็วที่ผู้แต่งเพลงต้องการ
Theme A ,1 st Variation ( ห้องที่ 23 - 38 )
รูปที่ 3 : Elegie ( ห้องที่ 23 - 38 )
กลับมาที่ Theme A อีกครั้ง ครั้งนี้มีการแปรทำนอง มีการพัฒนาจากตอนแรกคือเพิ่มมีโน้ต Theme หลักที่เยอะขึ้นและมีแนวเสียงประสานที่ดีดแยกเป็นตัวๆซึ่งจากเดิมดีดพร้อมกันเป็นคอร์ด
Theme B , 1st Variation ( ห้องที่ 38 - 47 )
รูปที่ 4 : Elegie ( ห้องที่ 38 - 47 )
ช่วง Transition ในห้องที่ 38 มีการใช้คอร์ดที่หนักและโน้ตเบสของแต่ละคอร์ดเดินลงเป็นโน้ตครึ่งเสียง ( Chomartic ) จนไปถึงคอร์ด Diminish และ Resolve เข้าคอร์ด 5 ของบันใดเสียง A ไมเนอร์ ในส่วนของจังหวะที่หนักและส่วนของจังหวะเป็นขเบ็ต 2 ชั้น ที่ให้อารมณ์ความรู้สึกที่น่าตื่นเต้น
Theme B มีการแปรทำนองโดยการปรับแนวทำนองให้มีระดับเสียงที่สูงขึ้นโดยมีโน้ตตัว D# เป็น Tension และ โน้ตตัว E เป็นโน้ต Resolve และช่วงกลางมีการใส่คอร์ดที่ 5 จังหวะที่ 1 ในทุกห้องของช่วงนี้
ในส่วนของเทคนิคเชิงปฏิบัติการเราเรียกวิธีการเล่นเทคนิคนี้ว่า Arppegio ซึ่งเทคนิคนี้จะใช้ความความเร็วและคล่องของมือซ้ายอย่างมากซึ่งผู้เล่นนั้นได้ให้วิธีการวางแผนนิ้วให้สมองของผู้เล่นคิดก่อนที่นิ้วจะวางและพอรู้สึกว่านิ้วคล่องขึ้นตัวผู้เล่นจะเล่นพร้อนเมโทนอมและเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆจนถึงความเร็วที่ผู้แต่งเพลงต้องการ