top of page

PROGRAMNOTE

Claude Dedussy - La fille aux cheveux de lin 

Georg Philipp Telemann - Fantasy No.7 

Djang Reinhardt - Nuages 

Isaac Albeniz - Sevilla

Georg Philipp Telemann

นักแต่งเพลงชาวเยอรมัน เกิดในครอบครัวชนชั้นกลางในฮัมบูร์กประเทศเยอรมนี สมาชิกเกือบทุกคนในครอบครัวของเขาได้รับการศึกษาสูงและส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างของโบสถ์ Telemann เป็นนักเรียนที่ยอดเยี่ยมเขาเรียนภาษาละตินวาทศาสตร์และกฎหมายตั้งแต่อายุยังน้อย และเขาได้นำวิชาที่เขาได้เล่าเรียนมาเรียบเรียงเป็นบทเพลงที่ใช้จินตนาการของเขา ในวันที่ 10 เขาสอนตัวเองให้เล่นขลุ่ยไวโอลินและเครื่องดนตรีอื่น ๆ เมื่ออายุ 12 เขาพยายามที่จะเขียนโอเปร่าครั้งแรกของเขา แต่แม่ของ เขาไม่เห็นด้วยที่จะให้เขามาสนใจดนตรีอย่างจริงจังเธอนำเครื่องดนตรีของเขาออกไปและสั่งห้ามไม่ให้เขาศึกษาดนตรีเพิ่มเติม เธอตัดสินใจส่งเขาไปโรงเรียนใหม่ในเซลเลอร์เฟลด์ซึ่งเธอหวังว่าการเล่นดนตรีของเขาจะยุติลง อย่างไรก็ตามอาจารย์โรงเรียนที่นั่นเห็นศักยภาพในการแต่งเพลงของเขาและสนับสนุนการแสวงหาดนตรีของ Telemann

เมื่อ Telemann อายุ 20 ปีเขาเข้ามหาวิทยาลัยใน Liepzig เพื่อศึกษากฎหมายและเอาใจแม่ของเขา มีรายงานว่าเขาทิ้งเครื่องดนตรีและผลงานเพลงทั้งหมดของเขาไว้ในหอพักของเขาเรื่องราวเล่าว่าเพื่อนร่วมห้องของเขาบังเอิญไปเจอผลงานชิ้นหนึ่งของเขาและนำไปจัดการแสดงในมหาวิทยาลัย ผลงานชิ้นนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจนเขาได้รับหน้าที่ให้เขียนบทละครทุก 2 สัปดาห์

เป็นนักประพันธ์เพลงที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในยุคของเขา เขาเขียนผลงานมากกว่า 3,000 ชิ้นตั้งแต่แชมเบอร์มิวสิคไปจนถึงโอเปร่าจาก oratorios ถึง cantatas ผลงานที่โดนเด่นของเขามีมากมายเช่น Die Donner-Ode ("The Ode of Thunder") , Ouverture in G minor , Twelve Fantasias for Transverse Flute without Bass , 36 Fantasias for Keyboard เป็นต้น

ประวัติเพลง

Fantasia มีทั้งหมด 12 บทถูกแต่งขึ้นในปี 1792 ถึง 1793 เป็นเพลงที่ Telemann แต่งให้กับฟลุต มี character ที่หลากหลายในแต่ละท่อน ในส่วนของ  Fantasia no. 7 นั้น มีทั้งหมด 4 ท่อน Dolce—Allegro—Largo—Presto

ความแตกต่างระหว่างoriginalกับTasciption

แน่นอนว่าฟลุตเป็นเครื่องดนตรีที่มีเสียงเดียวไม่สามารถเล่นเสียงที่สองหรือสามได้อย่างกีต้าร์สิ่งที่น่าสนใจในการดัดแปลงโน็ตของฟลุตมาเป็นโน็ตกีต้าร์นั้นคือการใส่เบสและคอร์ดเดิมหรือไกล้เคียงเข้ามาใส่ออนาเม้นท์ในบางจุดที่ต้นฉบับไม่มีสิ่งเหล่านี้ทำให้บทเพลงมีเสียงที่หลากหลายและทำให้ตัวเพลงมีความน่าสนใจมากขึ้น

concept ของ 3H

บทเพลงนี้เป็นเพลงช้าและสั้น ตัวบทเพลงมีความไพเราะและง่ายต่อการฟังเวลาเล่นแล้วเข้าใจทิศทางของเพลงได้ง่ายและสนุกไปกับเพลงนี้ มีการตีความที่ตายตัวอยู่แล้วในเรื่องของสำเนียงในเพลงนี้ และสิ่งที่ท้าท้ายในคือการคุมเทคนิคมือข้างซ้ายการตัวเองมีการค้างเบสในขณะที่นิ้วอื่นทำงานอยู่ การคุมฟิงเกอร์ลิ่งที่แปลกใหม่สำหรับตัวผู้เล่น เทคนิคการทิวของมือข้างขวาที่ต้องทำให้ชัดเจน ดังนั้นกระบวนการทำงานของ 3H นั้นแน่นอนว่าผมให้น้ำหนักไปที่การฝึกซ้อมการควบคุมทิศทางของมือและเทคนิคต่างๆในบทเพลงนี้มากที่สุดที่สุด

Claude Debussy 

นักประพันธ์ชาวฝรั่งเศษ เกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2405 ที่เมือง Saint Germain en Laye เขาเป็นนักแต่งเพลงที่มีอิทธิพลมากในดนตรีสมัยปัจจุบันและสไตส์การแต่งเพลงที่โดนเด่นของเขาที่ฉีกออกจากยุคโรแมนติก

ในตวรรษที่ 20 นั้นเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักประพันธ์เพลงคนสำคัญคนหนึ่ง สไตส์การแต่งเพลงของเขาที่ไม่มีกรอบในดนตรี ซึ้งเป็นการแสวงหาความอิสระในการเล่นดนตรีของเขา ดนตรีของเขามักจะถูกเรียกว่าเป็นแบบ “อิมเพรสชันนิสม์” และไม่นานต่อมาเขาได้จบเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ที่กรุงปารีส ขณะที่เขากองทัพเยอรมันเข้าบุกกรุงปารีสในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2461 รวมอายุ 55 ปี

ประวัติเพลง

เป็นบทเพลงชิ้นที่8 ในหนังสือPréludesเล่นแรกของเขาระหว่างปี 1909-1910 เขาได้รับแรงบันดาลใจจากบทกวีของ

Leconte de Lisle's จากการสะสมบทกวีกว่า 2395 บทของเขา ภาพของเด็กผู้หญิงที่มีผมสีย้อมด้วยผ้าลินินถูกนำมาใช้ในงานศิลปะเป็นสัญลักษณ์ของความไร้เดียงสาและความไร้เดียงสานั้น นักเขียนดนตรีได้ชี้ให้เห็นว่าภาพที่ประสบความสำเร็จของ Debussy นี้เชื่อมโยงกับความเรียบง่ายทางดนตรีของบทโหมโรง - โดยเฉพาะทางด้านเทคนิคและองค์ประกอบที่สอดคล้องกัน เขาเลือกความเรียบง่ายสำหรับงานชิ้นนี้เป็นพิเศษเพราะมันเบี่ยงเบนจากสไตล์ของเขาในเวลานั้น

ความแตกต่างระหว่างoriginalกับTasciption

บทเพลงนี้เป็นเพลงเปียโนที่ถูกดัดแปลงโน็ตมาเป็นโน็ตของกีต้าร์แน่นอนว่ากีต้าร์เป็นเครื่องดนตรีที่มีข้อกำจัดค่อนข้างเยอะในเรื่องของตำแหน่งการวางนิ้วและการค้างเบสหรือเทคนิคอื่นๆดังนั้นจะต้องมีการดัดโน็ตหรือย้ายoctaveของโน็ตเพื่อที่จะทำให้กีต้าร์เล่นง่ายมากขึ้นแต่ยังคงความดั้งเดิมของตัวบทเพลงอยู่

concept ของ 3H

บทเพลงนี้เป็นเพลงช้าและสั้น มีคอร์ดและเมโลดี้ที่น่าสนใจและเราสามารถตีความบทเพลงนี้ได้หลากหลายเช่นการใช้ความดังเบาของแต่ละช่วงของบทเพลงการใช้เสียงแหลมหรือเสียงนุ่มในเครื่องกีต้าร์ เทคนิคของเพลงนี้คือการคุมโทนให้คล้ายกับเปียโน คุมน้ำหนักในเบาและค้างเบสให้นานเหมือนเปียโนที่ใช้pedal แน่นอนว่าเพลงนี้เป็นที่สื่อถึงความเบาบางของเส้นผม แน่นอนว่าการทำงานกับบทเพลงนี้ผมใช้เวลาในการตีความและฝึกเทคนิคค่อนข้างนาน แต่สิ่งที่ผมให้ความสำคัญและใช้เวลาในการฝึกซ้อมนานมากกว่าทั้งสองสิ่งนี้คือการเล่นแล้วมีความMusicalหรือเล่นแล้วเรารู้สึกสบายและพอใจกับการเล่นของเรานั่นเอง

bottom of page